ในวงการฟุตบอลทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าการใช้ความรุนแรงในสนามฟุตบอลเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ล่าสุดมีเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงระหว่างนักเตะในนัดชิงชนะเลิศกีฬาซีเกมส์ปี 2023 ตามมาติดๆในนัดชิงถ้วยช้างเอฟเอคัฟ 2023 แน่นอนว่าผู้ที่ได้กระทำผิดจะได้รับโทษในสิ่งที่กระทำตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงขั้นหมดอนาคตในอาชีพนักฟุตบอลเลยทีเดียว คำว่า รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ที่เราคุ้นเคยประโยคนี้ในการแข่งขันกีฬาตั้งแต่เด็กจนโต ถามว่ามันสามารถช่วยยกระดับคุณภาพของนักฟุตบอลได้หรือไม่ เรามาช่วยกันหาคำตอบกันครับ
อันดับแรกขอกล่าวถึงที่มากันก่อน โดยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้เป็นผู้ประพันธ์ “เพลงกราวกีฬา” ในนาม “ครูเทพ” เพื่อจูงใจให้นักกีฬารู้จักการแพ้ชนะและรู้จักการให้อภัย ทั้งนี้สืบเนื่องจากการรณรงค์ให้มีการออกกำลังกายและการแข่งขันกีฬาในโรงเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งการริเริ่มให้มีการแข่งขันฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่รุนแรง ซึ่งในเวลาต่อมาที่มักเกิดการวิวาทกันอยู่เนือง ๆ(ที่มา วิกิพีเดีย)
การจัดการเรื่องการใช้ความรุนแรงในสนามฟุตบอลที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็ก โดยผู้ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอด สอนได้ดีคือผู้ที่ใกล้ชิดกับเด็กไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง โค้ชผู้ฝึกสอน ควรคำนึงถึงประเด็นและวิธีการดังต่อไปนี้

1.ควรวางเป้าหมายของการฝึกสอนโดยเน้นให้เล่นฟุตบอลให้เป็น รู้จักกฎกติกา วิธีการเล่น มากกว่าการหวังผลแพ้-ชนะ

2.ควรโฟกัสหรือทำให้เห็นถึงคุณค่าของความพยายาม ความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง มากกว่าผลแพ้-ชนะ

3.ในช่วงเวลาที่ได้ชัยชนะควรสอนให้เด็กรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตนไม่ไปเยาะเย้ยถากถางคู่แข่ง รวมถึงการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา

4.ในช่วงเวลาที่พ่ายแพ้ควรสอนให้ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นและแสดงความยินดีกับผู้ชนะ ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมในการแข่งขันครั้งต่อไป

5.สอน/ฝึกทักษะการจัดการความโกรธ โดยสอนให้เด็กรู้จักสังเกตอาการโกรธของตนเอง เช่น หน้าแดง ตัวเกร็ง หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก เป็นต้น พอรู้จักอยู่ในช่วงอาการโกรธแล้ว ให้หาวิธีระงับหรือจัดการความโกรธ โดยการเดินหนีจากสถานการณ์/สิ่งที่ทำให้เกิดความโกรธ (ความโกรธ เกิดขึ้นไม่นานเดี๋ยวก็หายไปเอง)

6.หากเด็กไม่พร้อมจะทำตามกติกาหรือรับไม่ได้กับผลแพ้ ชนะ ก็ไม่ควรให้เด็กได้เล่นฟุตบอลในเกมนั้น
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในจัดการกับความโกรธ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับกีฬาฟุตบอลที่ต้องกระทบกระทั่ง แตะต้องตัวกัน การรู้จักให้อภัยกันเป็นหัวใจสำคัญ การมองผู้แข่งขันเป็นเพื่อนร่วมทางที่ต้องพบกันอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะในรายการแข่งขันที่กำลังเกิดขึ้นและรายการแข่งขันครั้งต่อไป ไม่มีเหตุผลอันใดที่เราจะต้องมาโกรธกัน ทำร้ายกัน ในเส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพ